สาเกญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มีรสชาติลุ่มลึก ไม่เพียงแต่กับอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเข้ากันได้ดีกับอาหารทุกประเภท สาเกของจังหวัดอาคิตะ เป็นสาเกที่หมักบ่มโดยใช้น้ำ และข้าวที่ปลูกในจังหวัด ซึ่งอาคิตะเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับในเรื่องของแหล่งปลูกข้าวชั้นดี ผนวกกับกรรมวิธีการทำสาเกของผู้ที่มีทักษะและประสบการณ์สูง สาเกของจังหวัดอาคิตะ มีรสชาตินุ่มนวล ดื่มง่าย เปรียบเหมือนผิวอันละเอียดอ่อนของหญิงงามแห่งอากิตะ

ในจังหวัดอาคิตะมีโรงหมักสาเกถึง 37 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ล้วนแต่ทุ่มเท พยายามพัฒนาผลิตสาเกคุณภาพดีขึ้นมา ความลับของการทำสาเกรสชาติดีคือ น้ำ และข้าวที่ปลูกในจังหวัดอาคิตะ รวมถึงทักษะกรรมวิธีที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แหล่งน้ำที่สร้างความชุ่มชื่นให้กับนาข้าวได้แก่ แม่น้ำโอะโมโนะ (Omonogawa) แม่น้ำโคะโยชิ (Koyoshigawa) แม่น้ำโยเนะชิโระ (Yoneshirogawa) แหล่งน้ำที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นแหล่งน้ำคุณภาพดี “ซันไนโทชิ” (Sannaitoshi) คือสมาคมผู้เชื่ยวชาญด้านการผลิตสาเกคุณภาพเยี่ยมของจังหวัดอาคิตะ จนทำให้ถูกขนานนามว่าจังหวัดอากิตะนั้นเป็น “เมืองแห่งสาเก” จากลักษณะภูมิประเทศ จังหวัดอาคิตะ เป็นจังหวัดที่มีอากาศเย็น มีหิมะตก สาเกของอาคิตะจึงเป็นสาเกที่หมักบ่มในอุณภูมิต่ำ นอกจากกรรมวิธีการหมักบ่มสาเกที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษแล้ว ในปัจจุบันยังมีสาเกที่ใช้กรรมวิธี และเทคนิคต่าง ๆ จากคนรุ่นใหม่ เข้ามาผสมผสานด้วย

ในเขตอำเภออาคิตะ มีโรงหมักบ่มสาเกอยู่ทั้งหมด 5 แห่ง แต่ละแห่งต่างมีกรรมวิธีขั้นตอนการทำสาเกที่ปราณีต เพื่อให้ได้สาเกคุณภาพ และรสชาติที่ดี ซึ่งประวัติความเป็นมาและเอกลักษณ์ความโดดเด่นของแต่ละแห่ง มีดังนี้

บริษัท อาระมาซะชุโซ [อาระมาซะ]
เป็นโรงหมักบ่มสาเกเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณเลียบแม่น้ำอาซาฮิ (Asahigawa) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ 1852 สาเกของที่นี่จะใช้ข้าวขัดขาวคุณภาพดี หมักบ่มในอุณหภูมิต่ำ ใช้เวลาการหมักบ่มนาน ที่นี่เป็นผู้คิดค้นกรรมวิธีการผลิตสาเกแบบใช้ยีสต์หมายเลข 6 นอกจากกรรมวิธีแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีการนำเอาวิธีการผลิตแบบคนรุ่นใหม่เข้ามาผสมผสานด้วย
[ผลิตภัณฑ์แนะนำ]
①ซาโตอุเฮ ยามะไฮจุงไม 720ml
เป็นสาเกชั้นจุงไมไดกิง ที่ใช้สาเกอากิตะประเภทโกมาชิ100เปอร์เซ็นต์

นาบะโชเต็ง [กิงริง]
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ 1807 (บุงกะปีที่ 4) สมัยเฮอัน ที่ระบบขนส่งทางทะเลเข้ามามีบทบาท
ตั้งอยู่ที่ ทสึจิซะกิ มินาโตะโจ ใกล้กับบริเวณปากแม่น้ำโอโมโนะ ในปีโชวะ ปีที่ 3 (ค.ศ 1928) สร้างโรงบ่มสาเกแบบคอนกรีตเป็นแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ผลิตสาเกด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ และเทคนิคดั้งเดิมจากคนรุ่นเก่าหมักบ่มสาเกคุณภาพดี
[ผลิตภัณฑ์แนะนำ]
②ยามะไฮจุงไมกิงโจ กิงริง (Yamahaijunmaiginjou Ginrin) 720㎖
ขอเชิญลิ้มรสยอดเยี่ยมของความอร่อยจากข้าวและรสเปรี้ยวคล้ายไวน์ขาว

บริษัท อากิตะชุรุยเซโซ [ทากะชิมิซุ]
ตั้งอยู่ในเขตคาวะชิริ (Kawashiri) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำคุณภาพดี มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยก่อนเจ้าเมืองปกครองแคว้นอาคิตะก็ใช้น้ำจากที่นี่นำมาใช้ในพิธีชงชา “ทาคะชิมิซุ” ซึ่งแปลว่า สุดยอดแห่งน้ำบริสุทธิ์ เป็นชื่อยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ สาเกของที่นี่ใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม บวกกับนำเทคนิคและเครื่องจักร อุปกรณ์อันทันสมัยเข้ามาร่วมด้วย มีโรงบ่มสาเกฮงชะกุระ
โรงบ่มสาเก“เซ็นนิงกุระ” , และโรงบ่มสาเก“โกะโชโนะกุระ “
[ผลิตภัณฑ์แนะนำ]
③จุงไมไดกิงโจ ทากะชิมิซุ 720㎖
สาเกที่ผลิตจากข้าวขัดขาว หมักบ่มในอุณหภูมิต่ำ มีรสออกเปรี้ยวและหรูหรา กลิ่นหอม

บริษัท อากิตะชุโซ [อากิตะบาเระ]
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ 1908 (สมัยเมจิปีที่ 41) ตั้งอยู่บริเวณเขตอารายะ เป็นโรงบ่มเก่าแก่ กำแพงทำจากดิน ใช้กรรมวิธีเฉพาะที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ อากิตะบาเระ เป็นสาเกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ เป็นสาเกที่ใช้ยีสต์ที่เพาะขึ้นเองในโรงบ่ม
จัดจำหน่ายในยี่ห้อ “ซุอิระคุเท็ง” และยังมีสาเกเก่าที่เก็บบ่มในขวดเป็นระยะเวลานานหลายปีด้วย
[ผลิตภัณฑ์แนะนำ]
④ไดกิงโจ ซุอิระคุเท็ง 720㎖
เป็นสาเกชั้นไดกิงโจ ที่หมักบ่มในอุณหภูมิต่ำเป็นเวลานาน มีรสชาติอ่อนโยนพร้อมกับกลิ่นหอมที่สดชื่น

บริษัท อากิตะจูโซ [ยูคิโนะบิจิง]
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ไทโชที่ 8 (ค.ศ 1919) อยู่ที่เขตนาระยามะ ตราสัญลักษณ์ของบริษัทจะเป็นรูป”โคมไฟ” มีที่มาจากคันโตมัตสึริหรือเทศกาลแห่โคมไฟ ที่เป็นงานประเพณีที่จัดขึ้นในฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น โรงเก็บบ่มสาเกในปัจุบันเป็นอาคารแมนชั่นชั้นเดียว ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีความมิดชิด ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จึงสามารถเก็บบ่มสาเกได้ดีในฤดูร้อนด้วย ขณะที่ไม่สามารถทำได้ที่อื่น
[ผลิตภัณฑ์แนะนำ]
⑤จุงไมไดกิงโจ ทากะชิมิซุ 720㎖
รสชาติเปรี้ยวดีกลมกล่อม สดชื่น เข้ากับอาหารหลายอย่างได้ดีไม่ว่าอาหารแบบเอเชียหรือฝรั่ง

ฮงชะกุระ (Honshagura) “ทากะชิมิซุ” เปิดให้เข้าชมกระบวนการผลิตสาเกได้ในช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในบริเวณพื้นที่ของฮงชะกุระ มีเซ็นจูกุระ (Senjugura) , เซ็นนิงกุระ (Senningura) และโรงเก็บสาเกอายุนานหลายปี รวมถึงโรงงานบรรจุขวด ที่นี่จะทำครบทุกกระบวนการตั้งแต่การหมักบ่มสาเก จนถึงการส่งออก
※อาจมีบางกรณีที่ไม่สามารถเปิดให้เข้าชมได้ กรุณาติดต่อสอบถามล่วงหน้า

ซาคะบะโดโจ “เซ็นนิงกุระ”
เซ็นนิงกุระ เป็นสถานที่ผลิตสาเก และเรียนรู้เรื่องของจิตใจ พร้อมไปกับการถ่ายทอดทักษะและประสบการณ์ที่มีมาแต่ดั้งเดิม
มีการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการหมักบ่มสาเก จากผู้ที่รับหน้าที่หมักบ่มสาเก ของโรงบ่มสาเกทากะชิมิซุ ที่ผลิตสาเกเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี ค.ศ 2005 เสาและคาน ของตัวอาคาร ยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงจิตใจของผู้ที่เป็นคนปรุงสาเก ที่นี่รับช่วงผลิตสาเกจากรุ่นสู่รุ่น เป็นโรงผลิตสาเกแบบใช้มือทำ และเปิดให้ลูกค้าเข้าชมโรงบ่มสาเก สามารถรองรับผู้เข้าชมจำนวนมากได้ ※ ในฤดูหนาวสามารถชมการผลิตสาเกชั้น 2 ผ่านบานกระจกได้

ยาสุระงิบะ (Yasuragiba)
มีจอภาพขนาดใหญ่ฉายประวัติการผลิตสาเกทากะชิมิซุ ในส่วนที่เกี่ยวกับการผลิตสาเกมีอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ และยังมีมุมให้ชิม ทาคะชิมิซุ สาเกแห่งความภาคภูมิใจด้วย

อาคารข้อมูลเอกสาร
มีมุมจัดแสดงอุปกรณ์ เครื่องมือดั้งเดิมแต่โบราณที่ใช้ในการผลิตสาเก ให้ได้ชมอย่างใกล้ชิด เช่น ถังไม้ (Hankirioke) ขวดโหลแก้ว (Tobin) ไม้พายสำหรับกวนข้าว (Kaiwari)